สรุปภาษีที่ดินใหม่ เริ่มใช้จริง ปี 2563

สรุปภาษีที่ดินใหม่ เริ่มใช้จริง ปี 2563


สรุปภาษีที่ดินใหม่ เริ่มใช้จริง ปี 2563

กฎหมายภาษีที่ดิน คือแบบภาษีใหม่ที่จะมาแทนกฎหมายภาษีโรงเรือนและที่ดิน เนื่องจากภาษีโรงเรือนและที่ดินนั้นไม่ค่อยเหมาะสมกับยุคสมัยนี้ เพราะมีอายุยาวนานและไม่เหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนไป  รวมถึงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบบใหม่นี้ ก็มีส่วนช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มความเป็นธรรมอีกด้วย


ภาษีที่ดินแบบใหม่นั้น แบ่งประเภทที่ดินที่ต้องเสียภาษีไว้ 4 รายการ ดังนี้


1. ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม โดยอัตราเพดานสูงสุดอยู่ที่ 0.15 % และจะแบ่งอัตราจัดเก็บเป็นมูลค่าล้านบาทเริ่มตั้งแต่
0 - 75 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.01%
75 - 100 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.03%
100 - 500 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.05%
500 - 1,000 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.07%
1000 - 5,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราจัดเก็บ 0.10%
*หมายเหตุ* บุคคลธรรมดาจะได้ยกเว้นภาษีในช่วง 50 ล้านบาทแรก


2. ที่ดินเพื่ออยู่อาศัย โดยอัตราเพดานสูงสุดอยู่ที่ 0.3 % และจะแบ่งอัตราจัดเก็บเป็นมูลค่าล้านบาทเริ่มตั้งแต่
0 - 50 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.02%
50 - 75 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.03%
75 - 100 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.05%
100 - 5,000 ล้านบาทขึ้นไป อัตราจัดเก็บ 0.10%
*หมายเหตุ* บ้านหลังแรกยกเว้น 50 ล้านบาทแรก


3. ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม โดยอัตราเพดานสูงสุดอยู่ที่ 1.2 % และจะแบ่งอัตราจัดเก็บเป็นมูลค่าล้านบาทเริ่มตั้งแต่
0 - 50 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.30%
50 - 200 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.40%
200 - 1,000 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.50%
1,000 - 5,000 ล้านบาท อัตราจัดเก็บ 0.60%
5,000 ล้านบาท ขึ้นไป อัตราจัดเก็บ 0.70%
*หมายเหตุ* บ้านหลังแรกยกเว้น 50 ล้านบาทแรก


4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า โดยอัตราเพดานสูงสุดอยู่ที่ 3.0 % และจะแบ่งอัตราจัดเก็บเป็นมูลค่าล้านบาท เริ่มตั้งแต่ 0.3% ในงบตั้งแต่ 0 - 5,000 ล้านบาท ขึ้นไป
*หมายเหตุ*หากไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์อัตราภาษีเพิ่ม 0.3% ทุกๆ 3 ปี แต่รวมไม่เกิน 3 %


กฎหมายภาษีที่ดินนี้จะกระทบอะไรบ้าง ?


- มีผลกระทบกับคนที่มีบ้านหลายหลัง
เนื่องจากบ้านและที่ดินนั้นมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คงไม่แปลกถ้าหากเรามีเงินแล้วเราจะเก็บความมั่งคั่งของเราไว้ในรูปแบบบ้านและที่ดิน แต่ถ้าเรามีบ้านและที่ดินเยอะควรทำอย่างไร?
-โอนบ้านเป็นชื่อทายาทหรือลูกหลาน
  หากเราอยากมอบเป็นมรดกให้ลูกของเราอยู่แล้ว การโอนบ้านเป็นชื่อลูกนั้น จะได้รับสิทธิบ้านหลังแรก ซึ่งยกเว้นภาษี 50 ล้าน
- ย้ายชื่อไปอยู่บ้านที่แพงที่สุด
  บ้านหลังแรกหรือบ้านที่เราอยู่จะยกเว้นภาษี 50 ล้าน ดังนั้นการที่เราเลือกให้ชื่อที่เราอยู่ในบ้านหลังที่แพงที่สุดก็จะช่วยประหยัดภาษีได้ไม่น้อยเลยทีเดียว


- มีผลกระทบกับคนมีที่ดินเปล่า
เนื่องจากรัฐสนับสนุนให้เพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินไม่ปล่อยให้รกร้าง จึงเก็บภาษีที่ดินเปล่าด้วย ซึ่งหากยังปล่อยรกร้างต่อก็จะโดนอัตราภาษีที่สูงขึ้น ดังนั้นเราจึงควรสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ดินที่เรามี ไม่ว่าจะเป็น
- แบ่งแปลงที่ดินให้เล็กลง
  เพราะภาษีนั้นคิดเป็นแบบขั้นบันได ยิ่งแปลนที่ดินใหญ่ก็จะยิ่งเสียภาษีเยอะ ดังนั้นการที่เราแบ่งแปลนที่ดินเป็นหลายๆแปลงจะทำให้ราคาประเมินถูกลง ก็จะเสียภาษีน้อยลง
- แปลงที่ดินรกร้างเป็นที่ดินเกษตรกรรม
  การแปลงที่ดินเปล่าเป็นพื้นที่เกษตรกรรม นอกจากจะทำให้เสียภาษีน้อยลงแล้ว ยังเป็นการสร้างรายได้อีกทางด้วย แต่ที่ดินบางที่ก็อาจจะไม่เหมาะแก่การทำเกษตรกรรม เช่น ภูมิประเทศ พื้นที่ในเมือง 
- สร้างบ้านในที่ดินที่มี
  ถ้าเรามีที่ดินแปลงใหญ่ซึ่งอาจจะเสียภาษีในฐานที่สูง อาจจะเลือกที่จะสร้างบ้านไว้ในที่ดินนั้น ก็จะทำให้เสียภาษีน้อยลงมาได้เพราะกลายเป็นที่ดินเพื่ออยู่อาศัยทันที


ถือว่าเป็นกฏหมายภาษีที่มีผลต่อการปรับเปลี่ยนตลาดที่ดินและอสังหาฯเป็นอย่างมาก เพราะนอกจะเก็บภาษีเพื่อให้รัฐได้มีเงินไปพัฒนาประเทศต่อแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดินรกร้างที่ถูกปล่อยทิ้งไว้มานาน ให้เกิดการสร้างประโยชน์การแข่งขัน และช่วยเพิ่มการจ้างงานทางอ้อมไปอีกด้วย และยังเป็นส่วนช่วยให้ลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจน

แต่อย่างไรก็ตาม บ้านบางกอกขอแนะนำให้ไปศึกษาและนำไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเราด้วย เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและตัวเรานะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก
www.moneybuffalo.in.th