บทความ

ขายไว ทันใจ ฝากขายบ้านกับบ้านบางกอก


ทำไมต้องฝากขายบ้านกับบางกอกแอสเซท?
 เป็นคำถามที่ทุกท่านคงสงสัยกัน หากท่านยังไม่เคยใช้บริการกับเรา เราขอแนะนำตัว เราคือ บริษัท บางกอกแอสเซท อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รับฝาก ซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ ทุกประเภท เราเป็นศูนย์รวมบ้านมือสอง ตกแต่งใหม่พร้อมอยู่ ในทำเลกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ที่เริ่มกิจการมาอย่างยาวนานกว่า 9 ปี และขายบ้านมามากกว่า 1,500 หลัง
พื้นที่.jpg
พื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล
เราบริการรับฝากขายบ้าน ในทำเล กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล 
เรื่องฐานลูกค้าเรามีผู้ซื้อคุณภาพดี ท่านไม่ต้องรอนาน
รีวิว.jpg
เรามีรีวิวบ้านมากกว่าหลาย 100 รีวิว

เฟส.jpg
เรามีคนติดตามทาง เพจFacebook มากกว่า 200,000 คน


ไลร์.jpg
เรามีคนติดตามทางLine@ มากกว่า 40,000 คน


ไอจี.jpg
เราได้เพิ่มช่องทางใหม่ใน IG ที่มีผู้ติดตามกว่า 9,000 คน
เทคนิคการขายของบ้านบางกอกที่จะอำนวยความสะดวกให้ท่าน ท่านไม่ต้องทำอะไรเราจัดการให้ทุกอย่าง
ประสบการ.jpg
1. เรามีการสำรวจวิจัยข้อมูลตลาดบ้านมือสอง เพื่อทำให้การตั้งราคาบ้านมือสองที่เหมาะสม จึงเกิดประโยชน์สูงสุดของผู้ขายในราคาที่เหมาะสมแก่ผู้ซื้อ
2. เราเป็นบริษัทฯตัวแทนขายบ้านมือสองที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน จึงให้บริการซื้อขายสะดวกรวดเร็ว โอนกรรมสิทธิ์ได้แน่นอน ปลอดภัยห่างไกลมิจฉาชีพ

3. ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นจนกว่าจะขายได้ (เงื่อนไขอัตราค่าบริการเป็นไปตามมาตรฐานของสมาคมฯ)


ขาย.jpg
4. เราดูแลให้บริการทุกขั้นตอนตั้งแต่ต้นจนซื้อขายบ้านมือสองสำเร็จ (ทำการตลาดประกาศขายบ้านให้ผู้ขาย จนกระทั่งโอนทรัพย์สินให้ผู้ซื้อ)
- ดำเนินการทำเรื่อง ทำเอกสารต่างๆ
- คัดกรองลูกค้าที่มีประสิทธิภาพในการซื้อบ้านของท่าน
- เปิดบ้านให้ลูกค้า พรีเซนบ้าน พร้อมรับโทรศัพท์แทนท่านโดยที่ท่านไม่ต้องลำบากทำเอง


ป้าย.jpg
5. บริการติดป้ายประกาศขายหน้าทรัพย์สิน บริการติดป้ายประกาศขายตามเส้นทางในหมู่บ้าน และ ชุมชนต่างๆมากมาย


โปรโมท.jpg
6. ถ่ายรูปพร้อมโปรโมทลงในเว็บไซต์ของเรา บ้านของท่านจะได้รับการถ่ายภาพจากมืออาชีพ พร้อมแต่งภาพใหม่ พร้อมลงเว็บไซต์ของเรา www.bangkokassets.com ที่กำลังอยู่ในอันดับต้นๆของ google ณ ตอนนี้

เว็บนอก.jpg
7. โพสต์โปรโมทลงเว็บไซต์ชื่อดัง ที่ติดอันดับต้นๆ ของgoogle เราลงทุนซื้อพื้นที่สำหรับโฆษณาเด่นๆ บนเว็บไซต์ชั้นนำไว้มากมาย ทุกการประกาศขายบ้านของท่านจะถูกนำเสนอสู่สายตาผู้ซื้อมากกว่า 100,000 รายทุกวัน

Screenshot_1.jpg

อัตราค่าบริการ 
อัตราค่าบริการไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นจนกว่าจะขายได้ 
อัตราค่าบริการ(ร้อยละ ของราคาซื้อขาย)
- ขายได้ภายใน 1-3 เดือนแรก 4% (ของราคาซื้อขาย)
- เดือนที่ 4-10 ตลอดสัญญา 3% (ของราคาซื้อขาย)


ป้ายพื้นแดง-(ครีเอท).jpg

สนใจขายบ้านกับบ้านบางกอก สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาได้ที่ 
Line : @bangkokassets (มี@ด้วยนะครับ)
หรือแค่คลิกตรงนี้: https://goo.gl/KMYn4D
โทรสอบถามได้ที่ 095-264-4465
เบอร์Office : 02-494-9187
ช่องทางใหม่ มาติดตามกันได้ที่ Instagram: https://goo.gl/REzvav

ทำอย่างไร? เมื่อกู้ไม่ผ่านเพราะติดเป็นผู้กู้ร่วม



สำหรับใครที่กำลังอยากกู้ซื้อบ้านใหม่ แต่ติดปัญหาเป็น "ผู้กู้ร่วม"ของบ้านหลังอื่นอยู่ วันนี้บ้านบางกอก ขอเสนอแนวทางแก้ไขสำหรับผู้กู้ร่วม แต่ก่อนอื่น เราควรมารู้จักกับคำว่า "ผู้กู้ร่วม" กันก่อน 
 
5.jpg
 
การเป็นผู้กู้ร่วม คือ การเป็นหนี้ร่วม ผู้กู้ร่วมจึงมีหน้าที่ต้องช่วยผ่อนชำระหนี้เงินกู้นั้นด้วย แม้ว่าในทางปฏิบัติแล้วหลายๆคน อาจเป็นผู้กู้ร่วมแต่เพียงในนาม หรือเป็นเพียงใส่ชื่อผู้กู้ร่วมเพื่อเพิ่มรายได้ให้ได้ตามเกณฑ์ที่จะได้รับอนุมัติสินเชื่อเท่านั้น 
2.jpg
 
ดังนั้นการเป็นผู้กู้ร่วมนั้นถือว่า เป็นหนี้ร่วมกัน ซึ่งยกตัวอย่างในกรณี กู้ร่วม 1 ล้านบาท ร่วมกู้ 2 คน ก็จะเท่ากับ รับภาระหนี้คนละ 5 แสนบาท หากผู้กู้ร่วมต้องการเป็นผู้กู้หลักในบ้านหลังที่สอง ภาระหนี้เหล่านี้ก็จะติดตัวไปด้วย ซึ่งเท่ากับเป็นการลดทอนความสามารถในการกู้ใหม่ และเป็นสาเหตุทำให้กู้ไม่ผ่านดังเคสที่ยกตัวอย่างข้างต้น และถ้าต้องการแยกตัวมากู้เอง ก็จะต้องทำเรื่องขอถอนชื่อจากการเป็นผู้กู้ร่วม ซึ่งสามารถทำได้ครับ
6.jpg
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย...เนื่องจากธนาคารต้องประเมินว่า หากถอนชื่อผู้กู้ร่วมไปเหลือผู้กู้เพียงคนเดียว รายได้หรือความสามารถในการผ่อนชำระ(ของผู้กู้หลัก)เพียงพอหรือไม่? เบื้องต้นธนาคารจะพิจารณาว่า ผู้กู้ที่เหลืออยู่มีความสามารถในการผ่อนชำระหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้วยอดผ่อนชำระจะต้องไม่เกิน 40-50% ของรายได้ในแต่ละเดือน
 
ถ้าเป็นกรณีที่ผ่อนกันมาหลายปีแล้ว เหลือวงเงินกู้เพียงเล็กน้อย การขอถอนชื่อมักไม่มีปัญหา หรือเวลาผ่านไป รายได้ของผู้กู้หลักรายเดียวเพียงพอสำหรับเกณฑ์มาตรฐานของธนาคารแบบนี้ก็ไม่มีปัญหา แต่ส่วนใหญ่ที่เป็นปัญหา ไม่สามารถถอนชื่อออกได้ก็เพราะเพิ่งจะผ่อนได้ไม่กี่ปี วงเงินกู้ยังเหลืออีกเยอะ  ผู้กู้หลักคนเดียว มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ของธนาคาร อย่างไรก็ตาม หากผู้กู้ร่วมยืนยันที่จะถอนชื่อออกไป ในขณะที่ผู้กู้หลักไม่สามารถกู้คนเดียวได้ ทางออกที่เหลือคือ ต้องหาผู้กู้ร่วมคนใหม่มาแทนผู้กู้ร่วมที่ถอนออกไป

7.jpg

ขั้นตอนการถอนชื่อผู้กู้ร่วม
เนื่องจากในการกู้ร่วมนั้น ธนาคารมักกำหนดให้ผู้กู้ร่วมมีชื่อเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในหลักประกันจำนองนั้นด้วย ดังนั้น เมื่อมีการถอนชื่อออกสิ่งที่ต้องทำคือ 
- ทำเรื่องเปลี่ยนแปลงสัญญากับธนาคาร
- ทำเรื่องเปลี่ยนสัญญากรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน
- มีค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาประเมิน 
- มีการคิดภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายด้วย (หลักการ = ผู้กู้ร่วมขายกรรมสิทธิ์)

สุดท้าย เชื่อว่าทุกท่านคงเข้าใจเรื่องการกู้ร่วมกันมากขึ้นแล้ว ดังนั้นหากใครต้องการกู้บ้านร่วมกัน ขอให้ท่านคิดถึงผลในอนาคตข้างหน้า ก่อนจะตัดสินใจ รวมไปถึงการกู้ร่วมถึงแม้แค่เป็นการกู้ร่วมกันในนาม ก็ควรคิดให้ดีๆก่อนจะเซ็นต์ชื่อกันด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อความจาก
www.home.co.th

ตรวจเครดิตบูโรสำหรับขอสินเชื่อบ้านและบัตรเครดิตได้ที่ไหนบ้าง

สำหรับคนอยากได้บ้าน หรือ อยากทำบัตรเครดิต อย่างเรา ก็คงไม่พ้นคำว่า เครดิตบูโร บางคนยังสงสัยอยู่เลยว่า  “ เครดิตบูโร ” คืออะไรกันนะ จริงๆแล้วเครดิตบูโร คือ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมเครดิตต่างๆที่เราได้ขอไว้ ซึ่งเครดิตบูโร จะเก็บรวบรวมประวัติการชำระสินเชื่อย้อนหลังของเรา ไม่เกิน 36 เดือน เครดิตบูโรเป็นข้อมูลหลักๆ ที่ทางสถาบันการเงินแต่ละเจ้าจะดูเพื่อพิจารณาในการอนุมัติ หากเราไม่มีประวัติเสีย ก็มีโอกาสอนุมัติสูงขึ้นนั้นเอง นอกจากนั้น บ้านบางกอกขอเสนอสถานที่ที่ท่านสามารถไปตรวจสอบเครดิตบูโรได้ด้วยตัวเอง ดังต่อไปนี้
2.jpg
 
กรุงเทพฯ และปริมณฑล  แบบรอรับได้เลย (ค่าบริการ 100 บาท) ภายใน 15 นาที (ใช้บัตรประชาชนของตนเอง)
 
1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) อาคาร 2 ชั้น 2   ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 09.00 – 16.30 น. หยุดวันนักขัตฤกษ์  บริการตรวจให้แก่
- บุคคลธรรมดา (ของตนเอง)
- บุคคลธรรมดา (มอบอำนาจ)
- นิติบุคคล
- นิติบุคคล (มอบอำนาจ)
- ชาวต่างชาติ
 
2. ปากซอยสุขุมวิท 25 อาคารกลาสเฮ้าส์ (ชั้นใต้ดิน) ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 09.00 – 16.30 น. หยุดวันนักขัตฤกษ์ บริการตรวจให้แก่
- บุคคลธรรมดา (ของตนเอง)
- บุคคลธรรมดา (มอบอำนาจ)
- ชาวต่างชาติ
 
3. อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3 (โซนธนาคาร) ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 9.00 – 18.00 น. หยุดวันนักขัตฤกษ์บริการตรวจให้แก่
- บุคคลธรรมดา (ของตนเอง)
- บุคคลธรรมดา (มอบอำนาจ)
- ชาวต่างชาติ
 
4. สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (ภายในสถานี) ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ 09.00 – 18.00 น.บริการตรวจให้แก่
- บุคคลธรรมดา (ของตนเอง)
- บุคคลธรรมดา (มอบอำนาจ)
- ชาวต่างชาติ
 
5. สถานีรถไฟฟ้า BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ภายในสถานี) ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 18.00 น.
บริการตรวจให้แก่
- บุคคลธรรมดา (ของตนเอง)
- บุคคลธรรมดา (มอบอำนาจ) 
- ชาวต่างชาติ
 
6. ห้างเจ-เวนิว (นวนคร) ชั้น 3 ติดประกันสังคม ทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 09.00 – 18.00 น. บริการตรวจให้แก่
- บุคคลธรรมดา (ของตนเอง)
- บุคคลธรรมดา (มอบอำนาจ)
- ชาวต่างชาติ (เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์)
1.jpg

เฉพาะรายการลูกค้าบุคคลธรรมดา ยื่นตรวจของตนเองเท่านั้น (ไม่รับกรณีมอบอำนาจ)
1. CITI (บริการเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 – 18.00 น.)  
- เดอะมอลล์ บางกะปิ
- เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน
- ศูนย์การค้าเมกา บางนา
 
 2. UOB (บริการเฉพาะ เสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 – 18.00 น.)
- สาขาเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต บางใหญ่
- เดอะมอลล์ ท่าพระ
3.jpg
 
กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แบบส่งรายงานกลับไปให้ทางไปรษณีย์ ลงทะเบียน (ค่าบริการ 150 บาท) ภายใน 7 วันทำการ 
1. เคาน์เตอร์ธนาคาร (ทุกสาขา)
- กรุงศรีอยุธยา
- กรุงไทย
- ธนชาต
- ธอส.
- แลนด์แอนด์เฮ้าส์
- เอสเอ็มอีแบงก์
 
แจ้งเจ้าหน้าที่ ที่เคาน์เตอร์ พร้อมยื่นบัตรประชาชนของตนเอง
 
2. ใช้บัตร ATM กรุงไทย, ไทยพาณิชย์
- มีบัตรของธนาคารไหน ใช้ตู้ ATM ธนาคารนั้น ทำรายการผ่านหน้าจอ (เมนู ตรวจเครดิตบูโร)
 
3.ใช้โทรศัพท์มือถือ สำหรับผู้ที่ลงทะเบียน ธนาคารมือถือกรุงไทย, ธนชาต
- ทำรายการผ่านธนาคาร บนโทรศัพท์มือถือ
 
4.ใช้บริการธนาคารออนไลน์ กรุงศรีอยุธยา, กรุงไทย
- มีบัญชีธนาคาร (ทำรายการผ่านเว็บไซต์)
 
5.ที่ทำการไปรษณีย์ เฉพาะสาขาที่ให้บริการ
- ตรวจสอบสาขาไปรษณีย์ที่ให้บริการ >> คลิก <<
 
สอบถามเพิ่มเติม THP Contact Center โทร.1545 หรือ www.thailandpost.co.th

ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.ncb.co.th/

5วิธีจัดบ้านตามฮวงจุ้ย ต้อนรับปีใหม่ ให้เฮง ให้รวย ตลอดทั้งปี

เปิดปีใหม่อยากทำอะไรให้ เฮงๆ รวยๆ ลองจัดบ้านต้องรับปีใหม่กันดีกว่า นอกจากการทำความสะอาดบ้านให้เอี่ยมอ่อง คงยังไม่พอ ต้องจัดบ้านใหม่ให้ถูกหลักของฮวงจุ้ยด้วย รับรองว่าได้ทั้งบ้านเรียบร้อยและเฮงๆ รวยๆ ตลอดปีอย่างแน่นอน
 
หลักของจัดบ้านรับทรัพย์มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
การจัดบ้านรับทรัพย์ แนะนำว่าให้แบ่งโซนที่ต้องการจะจัดบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องนอน หรือครัว โดยเริ่มจัดทีละส่วน เพื่อให้ถูกต้องต้องตามหลักฮวงจุ้ย ซึ่งเน้นเรื่องทิศทางหรือโทนสีที่ตรงกับธาตุต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.jpg

1. จัดบ้านรับปีใหม่ เริ่มต้นตั้งแต่หน้าบ้าน
เป็นที่รู้กันดีว่าบริเวณหน้าบ้าน เปรียบเสมือนจุดรับพลังงานเข้าบ้าน ดังนั้นบริเวณหน้าบ้านจึงควรทำความสะอาดไม่ให้รกรุงรัง ประกอบกับจำเป็นต้องจัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้เงินทองไหลเข้าบ้านได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมกับถือว่าเป็นการต้อนรับสิ่งดีๆ ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
2.2.jpg
 
2. จัดบ้านให้มีความสุข ด้วยการเลือกสีสดใส บริเวณห้องนั่งเล่น
ตามความเชื่อของศาสตร์ฮวงจุ้ย ห้องนั่งเล่นเปรียบเสมือนหัวใจหลักของบ้าน เนื่องจากเป็นจุดต้อนรับแขก และเป็นแหล่งรวมความบันเทิงของคนในบ้าน ดังนั้นการจัดบ้านบริเวณห้องนั่งเล่น จึงควรเลือกใช้โทนสีสดใส อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ความสุขของคนในบ้าน โดยเฉพาะโทนสีม่วงและแดง ที่มีความเชื่อว่าสีเหล่านี้เป็นตัวแทนของธาตุไฟ ช่วยให้สร้างบรรยากาศความรื่นรมย์ในการสนทนาภายในห้องนี้ได้อย่างเป็นสุข
3.2.jpg
 
3. จัดบ้านอยู่แล้วรวย จากของมงคลในห้องนอน
ห้องนอน นอกจากจะเป็นมุมพักผ่อนภายในบ้านแล้ว ยังสามารถจัดบ้านให้กลายเป็นแหล่งเงินทองได้อีกด้วย วิธีง่ายๆ เพียงนำของมงคลมาเสริมตกแต่งภายในห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นปลาทอง เพื่อเสริมมงคลในห้องนอนได้
4.2.jpg
 
4. จัดบ้านให้ร่มเย็น จากต้นไม้สีเขียวในห้องน้ำ
ต้นไม้สื่อได้ถึงความร่มเย็น สงบสุข จึงควรจัดบ้านส่วนนี้ด้วยเหล่าต้นไม้ ดอกไม้ พร้อมด้วยทาสีฟ้าช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบ สดชื่น ประกอบกับตามศาสตร์ฮวงจุ้ยเชื่อว่า ต้นไม้ และดอกไม้ จะช่วยเสริมเงินทอง ดังนั้นเมื่อจัดบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมหมั่นดูแลรักษาด้วย มิฉะนั้นจากพลังงานดีอาจกลายเป็นร้ายได้
5.2.jpg
 
5. จัดบ้านให้ถูกหลัก ไม่ว่าจะห้องไหน ต้องขจัดของอัปมงคลให้หมด
เมื่อจัดบ้านส่วนต่างๆ ของบ้านให้มีความสะอาด สดใส น่าอยู่ รับเงินทองแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่ควรลืมคือ การตรวจตราดูของใช้ภายในบ้าน มีสิ่งไหนแตกหัก ชำรุดบ้าง ถ้ามีควรรีบซ่อมแซมให้ดี ส่วนอันไหนไม่ใช้งานแล้วก็ให้กำจัดทิ้งไป สืบเนื่องจากของเหล่านี้เปรียบเสมือนลางร้ายให้กับสมาชิกและครอบครัวภายในบ้าน อีกทั้งตามศาสตร์ฮวงจุ้ยมีความเชื่อว่าหลอดไฟ เปรียบเสมือนแสงสว่างนำทางความมงคลเข้าบ้าน ดังนั้นจึงควรตรวจดูหลอดไฟต่างๆ ภายในบ้าน พร้อมรีบเปลี่ยนซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อนเข้าปีใหม่
 
ทริปการจัดบ้านเสริมโชคชะตาเฉพาะด้าน
การจัดบ้านที่ดี นอกจากจะต้องทำให้สะอาดถูกต้องตามศาสตร์ฮวงจุ้ยแล้ว จำเป็นต้องคำนึงถึงการจัดบ้านเสริมโชคชะตาเฉพาะด้าย อย่างในกรณีที่ต้องการให้ลูกฉลาด ควรหันโต๊ะทำงานหรือชั้นวางหนังสือให้ถูกทิศ เช่น ในกรณีที่ตัวบ้านหันไปทางทิศตะวันตก ให้เลือกโซนจัดวางโต๊ะอ่านหนังสือไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือถ้าตัวบ้านหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ให้หันชั้นวางหนังสือไปทางทิศใต้ เฉกเช่นเดียวกับคนที่ต้องการเสริมความรัก ก็ควรเลือกห้องนอนในทิศนี้เช่นกัน
 
เรื่องของการจัดบ้านรับปีใหม่ เรียกว่าเหมาะกับคนที่เพิ่งซื้อบ้าน และกำลังย้ายเข้าไปอยู่อย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการจัดบ้านเอาฤกษ์เอาชัย สร้างความสิริมงคลตั้งแต่แรกเริ่มที่เข้าบ้านใหม่เลยทีเดียว เรื่องของศาสตร์ฮวงจุ้ยจะว่าไปเชื่อไว้ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่แน่หากลุกขึ้นมาจัดบ้านตามเทคนิคดังกล่าวเบื้องต้นแล้ว อาจนำโชคลาภเข้ามาต้อนรับปีใหม่ก็เป็นได้

ขอบคุณข้อมูลจาก
www.ddproperty.com

ซื้อบ้าน vs เช่าบ้าน แบบไหนคุ้มกว่า?

เคยสงสัยกันใช่ไหมครับ ว่าระหว่าง ซื้อบ้าน กับ เช่าบ้าน แบบไหนที่คุ้มกว่ากัน เชื่อว่าหลายท่านคงเคยถกเถียงกันเรื่องนี้มาพอสมควร แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถตัดสินกันได้ว่า สรุปแล้วซื้อบ้านมันดีกว่าจริงไหม หรือ เช่าบ้านราคาถูกกว่าจริงหรือป่าว วันนี้บ้านบางกอกจะมาช่วยทุกท่านคำนวนความคุ้มด้วย บทความ "ซื้อบ้าน vs เช่าบ้าน แบบไหนคุ้มกว่า?" ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยครับ
แม้การซื้อบ้านในปัจจุบันจะต้องมีเงินดาวน์และค่าผ่อนสูงกว่าค่าเช่ารายเดือน อีกทั้งยังต้องมีค่าดูแลรักษา ค่าซ่อมแซมร่วมด้วย แต่เนื่องจากดอกเบี้ยผ่อนชำระสามารถใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้ ถึงปีละ 100,000 บาท แถมบ้านในขณะนี้ยังคงเพิ่มค่า (Appreciation) สูงมากทุกปี เช่นเดียวกับภาษีทรัพย์สินในบ้านเรา การมีบ้านหลังแรกก็อยู่ในข่ายได้รับยกเว้นภาษีทรัพย์สิน ทำให้เมื่อคิดออกมาแล้ว ยังไงการซื้อก็ยังคงคุ้มค่ากว่าการเช่าเป็นไหนๆ
        เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ขอยกตัวอย่างดังนี้ หากเราบ้านขายอยู่ที่ 3 ล้านบาท เงื่อนไขคือต้องดาวน์ 20% ที่เหลือกู้ธนาคาร 20 ปี ณ อัตราดอกเบี้ย 6% พูดง่ายๆ ก็คือต้องผ่อนธนาคารเดือนละ 17,194 บาท หากนำมาวิเคราะห์ต้นทุนสุทธิต่อปี โดยเปรียบเทียบกับการเช่าบ้านลักษณะเดียวกัน ที่เสียค่าเช่าเพียงแค่เดือนละ 12,000 บาท แถมยังไม่ต้องมีค่าดูแลรักษาและค่าซ่อมแซมใดๆ เพิ่มเติมอีก

รวม.jpg

จากผลการวิเคราะห์ตามตารางจะพบว่า หากพิจารณาในแง่ต้นทุนทางการเงินที่เสียต่อปีแล้ว การซื้อบ้านจะคุ้มค่ามากกว่าการเช่าอย่างเด่นชัดเจน รู้แบบนี้ก็ตั้งใจเก็บเงินซื้อบ้านกันได้เลยครับ
ขายบ้าน.jpg
แต่หากท่านต้องการที่ปรึกษาเรื่องสินเชื่อกู้บ้าน หรือ ต้องการซื้อบ้านสวยตกแต่งใหม่ บนทำเลคุณภาพ ในราคาสุดคุ้ม มาคุยกับเรา ได้ที่ โทร : 095-264-4465 เบอร์ Office : 02-494-9187 

ขอบคุณข้อมูลจาก
www.home.co.th